การปฏิบัติภารกิจในสัปดาห์ที่ 8 ตั้งแต่วันที่ 6- 10 มิถุนายน 2559
6/มิ.ย/59
เมื่อมาถึงได้ทำความสะอาดอาคารเรียน
และได้เตรียมอาหารว่างเช้าไว้ให้น้องๆ ทั้งสองห้อง เมื่อถึงเวลาเข้าแถวได้ช่วยครูพาเด็กๆ
เดินไปเข้าแถวดูแลเด็กเมื่อเข้าแถวเสร็จได้พาเด็กๆ
เดินสำรวจบริเวณเพื่อบริหารร่างกายและกลับมายังพื้นที่สีขาวทำกิจกรรมพัฒนาร่างกายและสุนทรียะ
วันจันทร์เป็นการเล่านิทานซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กชอบหลังจากนั้นเป็นกิจกรรมจิตศึกษาครูให้เด็กๆ
นอนในท่าปลาดาวแล้วเล่าเรื่องราวเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับการเรียนรู้ของวันนี้
ต่อมาครูให้เด็กๆ ต่อเติมรูปภาพเป็นอะไรก็ได้ตามจินตนาการ เด็กๆทำงานออกมาได้ดีและเสร็จทันตามเวลาที่กำหนด
เวลาที่เด็กรอคอยมาถึงแล้วคือการฟังนิทานเมื่อนิทานจบครูให้เด็กๆ
ทำงานฉีกปะตามรูปภาพให้สวยงาม เด็กบางคนยังฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ
ไม่ได้เพราะยังไม่มีความอดทนพอและงานก็ไม่เสร็จ ในระหว่างที่เด็กๆ
นอนได้ตรวจการบ้านและตรวจดูสื่อสารพร้อมทั้งติดสื่อสารเพื่อแจ้งผู้ปกครองในเรื่องที่จะเรียนของ
Week นี้และสื่อสารผู้ปกครองอาสามาทำขนมฟักทองใส่ข้าวไรซ์เบอร์รี่
7/มิ.ย/59
7/มิ.ย/59
กิจกรรมในพื้นที่สีขาวพัฒนาร่างกายและสุนทรียะเช้านี้
คือเคลื่อนไหวประกอบอุปกรณ์ซึ่งครูให้เด็กๆ นั่งเป็นวงกลมใหญ่ๆ แล้วให้เด็กๆ ส่งลูกบอลเมื่อเพลงจบลูกบอลอยู่กับคนไหนให้ยื่นขึ้นแล้วเพื่อนจะร้องเพลงให้ทำท่าทางประกอบ
เด็กๆ สนุกสนานและกิจกรรมจิตศึกษาคือการต่อเติมรูปเรขาคณิตตามจินตนาการ
เมื่อทำเสร็จครูให้เด็กๆ เล่าว่าต่อเติมเป็นรูปอะไร
ครูนำชิ้นงานของเด็กติดโชว์เพื่อให้เด็กๆ เกิดความภาคภูมิใจ วันนี้ได้เล่านิทานให้เด็กๆ
ฟัง “เรื่องเจ้าตูบอยากไปดวงจันทร์” เด็กๆ
ตั้งใจฟังมากพร้อมตอบคำถามของครูได้ทุกคนจากการฟังนิทาน เมื่อเล่าจบได้พาเด็กๆ
ไปเรียนรู้วิธีการทำขนมฟักทองใส่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ซึ่งเป็นขนมที่ไม่เน้นความหวาน
ทำง่าย และมีประโยชน์ ครูให้เด็กๆ ออกไปทำขนมช่วยผู้ปกครองเพียงแค่หนึ่งกลุ่ม
ซึ่งภายในกลุ่มนี้จะต้องสังเกตว่าใส่อะไรบ้าง ทำแบบไหน มีกลิ่นและรสชาติแบบใด
เพื่อกลับเข้ามาเล่าให้เพื่อนๆ ในห้องฟัง เด็กจดจำขั้นตอนการทำขนมมาจนครบและเล่าให้เพื่อนๆ
ฟัง
8/มิ.ย/59
วันนี้กิจกรรมจิตศึกษาเป็นการทำโยคะ
บริหารร่างกายซึ่งจะเริ่มจากท่ายืน นั่งและนอน ในท่ายืนมีท่าไหว้พระอาทิตย์
ท่าต้นไม้ ท่านั่งเป็นท่าผีเสื้อ ท่าหงส์ และท่านอนเริ่มจากท่าจระเข้ ท่าตั๊กแตน
และสุดท้ายเป็นการนอนในท่าปลาดาวเพื่อให้เด็กๆ ได้พักผ่อนพี่ร่างกาย ผ่อนคลาย
หลังจากนั้นมอบพลังความรักโดยการสวัสดีและโอบกอดเพื่อให้พี่หัวใจชนกันหลังจากนั้นครูเล่านิทานให้เด็กๆ
ฟังเมื่อนิทานจบครูให้เด็กๆ ปั้นดินน้ำมันเป็นสัตว์ที่มีชีวิต หลังจากนั้นได้ไปทำหน้าที่ของตนเองคือตักอาหารให้กับน้องอนุบาล
1และ 2
เพราะไม่มีแม่บ้านจึงต้องทำคนเดียวทุกวันซึ่งทำจนรู้ว่าเวลานี้ต้องทำอะไร
ตักข้าวตักอาหารขนาดไหนเด็กถึงจะอิ่มและอาหารแต่ละอย่างเด็กต้องได้เท่ากันทุกคนเป็นสิ่งที่กะปริมาณได้ยากมาก
และช่วยดูแลเรื่องการอาบน้ำให้เด็กๆ ระหว่างที่เด็กๆ นอน ได้ตรวจการบ้านและติดสื่อสารขอบคุณกลุ่มผู้ปกครองอาสาที่มาทำขนมฟักทองใส่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้เด็กๆ
ได้ทานกัน
9/มิ.ย/59
วันพฤหัส
สัปดาห์ที่สองของเดือนมิถุนายนของทุกๆ ปีจะเป็นวันไหว้ครูของทุกๆ โรงเรียน
และเมื่อพูดถึงบรรยากาศวันไหว้ครูคือทุกๆ โรงเรียนจะต้องจัดยิ่งใหญ่เป็นทางการ
และเด็กจะต้องมีการซ้อมไหว้ครูพร้อมทั้งทำพานไหว้ครู
แต่นั้นคือสิ่งที่เคยเห็นและผ่านมา
คำว่าวันไหว้ครูที่นี่ในวันนี้ได้เปลี่ยนไปเพราะครูและนักเรียนไม่ได้เป็นคนจัดงาน
เตรียมงานแต่เป็นผู้ปกครองของทุกๆ ชั้นปีร่วมด้วยช่วยกัน เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก
เพราะเขาคิดว่าเป็นการฝากลูกเป็นศิษย์ครู
เป็นงานที่ไม่เป็นทางการแต่ศักดิ์สิทธิ์มาก พานที่นำมาไหว้ครูไม่ใช่พานดอกไม้แต่อย่างใดแต่เป็นต้นกล้าที่สามารถนำไปปลูกและสามารถนำไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้
เด็กๆ ทุกคนได้ฝากตัวเป็นศิษย์ เป็นครั้งแรกที่ได้รับไหว้เด็กๆ
ที่ได้เห็นมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอม ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของคนเป็นครู
10/มิ.ย/59
ในเช้าแจ่มใสวันนี้ได้ทำหน้าที่ของตนเองคือการเตรียมของว่างเช้าให้เด็กทั้งสองห้องและทำความสะอาดอาคารเรียนก่อนจะไปรอรับเด็กๆ
กิจกรรมพัฒนาร่างกายและสุนทรียะในวันนี้ได้พาเด็กๆ เต้นประกอบเพลงพื้นบ้าน
กิจกรรมในวันนี้ในความรู้สึกยังทำออกมาไม่ดีเลย
ไม่ดีเลยก็ว่าได้เพราะไม่ได้เตรียมตัว เตรียมแค่เพลงและท่าประกอบเท่านั้นส่วนการรันกิจกรรมยังติดขัดขาดหายไปบ้างบางส่วน
เมื่อกิจกรรมแรกที่ทำออกมาแล้วไม่ดีการเริ่มกิจกรรมต่อไปทำให้เรารู้สึกกลัวว่าจะเป็นแบบเดิมจึงทำให้ทั้งวันไม่มีความสุขเลย
แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตนเองคือการตักอาหารกลางวันให้เด็กๆ วันนี้เป็นวันศุกร์เด็กๆ
จะเอาเสื้อผ้ากลับบ้าน
ก่อนที่ครูจะกลับบ้านจึงต้องทำความสะอาดห้องน้ำและอาคารเรียนให้เรียบร้อย
จึงได้เดินทางกลับบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น